สำหรับ Raspberry PI4 และ PI 400 เท่านั้น เพื่อประสิทธิภาพในการอ่านเขียนที่ดีกว่า SD Card
อ้างอิงจากเว็บ raspberrypi.org สำหรับ Raspberry PI4 และ PI 400 เท่านั้น ที่จะมี SPI-attached EEPROM เอาไว้เก็บการตั้งค่าการ Boot จึงจะสามารถทำวิธีนี้ได้
https://www.raspberrypi.org/.../raspberrypi/booteeprom.md
เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ จะมีรายชื่ออุปกรณ์ที่มีคน Test แล้วว่าใช้งานได้กับ Raspberry PI4 ดูได้จากลิงค์นี้ครับ
https://jamesachambers.com/raspberry-pi-4-usb-boot.../
สิ่งที่ต้องเตรียม
- SD Card สำหรับ Bootlodaer (ใช้งานชั่วคราวเฉพาะตอนติดตั้ง)
- USB Drive (External SSD)
- Card Reader ก่อนอื่นก่อนใดให้ทำ Snapshot เพื่อ Backup Home Assistant ของท่านไว้ก่อน
- Download Raspberry Pi Imager https://www.raspberrypi.org/software/
- เปิดโปรแกรม Raspberry Pi Imager
- ให้เลือก OS โดยเลือก Misc utility images under > Bootloader จะมีให้เลือก 3 แบบ ให้เลือก USB Boot
- เลือก Storage ให้เลือก SD Card ปลายทางและทำการ flash
- นำ SD Card ไปใส่ Raspberry Pi แล้วเปิดเครื่อง
- รอประมาณ 10 วินาที จนกว่าไฟ LED สีเขียวจะกะพริบ (ขั้นตอนนี้จะเป็นการบันทึกลำดับการ Boot ให้ Boot USB เป็นอันดับแรกลง EEPROM) ดูตัวอย่างในคลิปนี้ https://www.youtube.com/watch?v=HA1C1wgyJfI&t=331s
- ถอดปลั๊กและถอด SD Card ได้เลย
- ให้ทำการติดตั้ง Home Assistant จาก image ของ Raspberry Pi 4 ตามปกติ เพียงแต่เลือกปลายทางเป็น External SSD
- นำ External SSD มาเสียบที่ช่อง USB 3.0 (ช่องสีฟ้า) ของ Raspberry PI
- เสียบปลั๊ก Raspberry PI เพียงเท่านี้ก็จะ Boot เข้า USB เป็นอันดับแรกหลังจากนั้นก็จะ Boot เข้า Home Assistant ที่อยู่ใน USB Drive ของเราแล้ว และไม่จำเป็นต้องเสียบ SD Card ค้างไว้ด้วย
- ถ้าหากมี Snapshot ก็เอามา restore ใช้งานต่อเนื่องได้เลยครับ
แต่ถ้าหากจะกลับไป Boot ด้วย SD Card ตามเดิม ให้ทำแบบเดียวกับขั้นตอนที่ 1-6 แต่ให้เลือก Bootloader เป็น SD Card Boot
Top comments (0)