การพัฒนา คือ Development Work เช่น นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นักพัฒนาซอพแวร์โปรแกรม. เราจะใช้คำเรียกว่า Developer กล่าวถึงในบริบทการทำงาน
การภาวนา มาจากศัพท์ว่า ภาวิตา
ซึ่งแปลตามศัพท์ก็คือ การเจริญ, และแปลเป็นไทยก็คือ การพัฒนา คือ Development กล่าวถึงในบริบทการทำสมาธิภาวนา
ทั้ง การพัฒนา และ การภาวนา มีแง่มุมที่คล้าย ๆ กันอย่างมากทีเดียว
1. ต้องเรียนรู้อยู่เสมอ
การพัฒนา คุณจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้. เทคโนโลยี่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แล้วหลาย ๆ ครั้ง เราก็ไม่ได้จะจำอะไรได้ทุกอย่างตลอดเวลา วีธีการแก้ปัญหา solution บางอย่าง ก็มีหลากหลายวิธี จึงจำเป็นต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
การภาวนา ก็มี วิมังสา
ซึ่งหมายถึงการพัฒนา พิจารณา ปรับปรุงอยู่เสมอ โดยการเรียนรู้เป็นประสบการณ์ คำว่า "ประสบ" หมายถึงต้องมีผัสสะนั่นเอง. เมื่อมีผัสสะ แล้วใส่การเรียนรู้ การภาวนา ก็ก้าวหน้าได้.
2. ใส่ใจในรายละเอียด
การเขียนโปรแกม แค่ quote ' or " ผิดตัวเดียว ก็เป็น bug ผิดพลาดกันได้มาก. นักพัฒนาจึงต้องเป็นคนละเอียดรอบคอบ ในทุกบรรทัดของโค้ด ต้องตรวจแล้วตรวจอีกในทุกเงื่อนไข ก่อนนำไปใช้จริงได้
การจะทำสมาธิภาวนาก็เริ่มด้วยการมาสังเกตุจุดเล็กเช่น ลมหายใจ เป็นต้น จากนั้นก็ค่อยพัฒนาขึ้นไป ใส่ใจในรายละเอียดของสติ ของสัมปชัญญะ ความเข้าใจผิดนิดหน่อย เช่น "อดทน" กับ "เก็บกด" ก็ทำให้สถานการณ์พลิกแพลงไปคนละอย่างได้ ต้องใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่างให้ดี
3. ขยันด้วยปัญญา (ไม่เกียจคร้าน)
มีการพูดถึงว่า นักพัฒนาบางคนขี้เกียจจึงคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ แต่ถ้าเราไปอ่านในรายละเอียดจะเป็นเรื่องของปัญญา ที่หาวิธีการแก้ปัญหา จึงทำให้อะไรง่ายขึ้นในการพัฒนาโปรแกรม. เริ่มจากไม่มีอะไร เป็นมีทีละตัว ทีละคำสั่ง ไปจนเป็นทั้ง application ได้
การภาวนาก็ต้องมีความขยันอยู่แล้วในตัว คือมีการปฏิบัติเข้ากับการเรียนรู้ด้วยเลย. ไม่ได้จะเห็นแก่ความสบายหรือลำบาก แต่เห็นแก่กุศลธรรม ถ้ากุศลธรรมเกิดแม้จะอยู่ลำบากก็ตาม นั่นคือความเพียรที่มีผลขึ้นมาทันที.
Top comments (0)